รากฟันเทียม (Implant)

รากฟันเทียม (Dental implant) คือ วัสดุที่ผลิตจากไทเทเนียม (Titanium) ที่ออกแบบเป็นพิเศษให้มีรูปร่างคล้ายรากฟัน สามารถเข้ากับร่างกายของคนไข้ได้ดี โดยฝังลงไปยึดติดแน่นกับกระดูกขากรรไกรของคนไข้ได้อย่างแนบแน่น โดยไม่ทำให้เกิดการอักเสบของเนื้อเยื่อ ทำหน้าที่ทดแทนรากฟันธรรมชาติ เพื่อรองรับการใส่ฟันเพื่อทดแทนฟันที่สูญเสียไปตั้งแต่ 1 ซี่ หลายซี่ หรือทั้งปาก เป็นการใส่ฟันทดแทนมีประสิทธิภาพไกล้เคียงฟันแท้ธรรมชาติมากที่สุด

 

หากไม่มีการใส่ฟันทดแทนจะเป็นอย่างไร

  1. ประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวอาหารลดลง ความสวยงามหายไป ขาดความมั่นใจ โดยเฉพาะบริเวณฟันหน้า
  2. ฟันซี่ข้างเคียงจะเคลื่อนเข้ามาปิดช่องว่าง ทำให้เกิดปัญหาฟันล้ม ฟันเอียง เกิดการผุ และโรคเหงือกได้ง่ายนำไปสู่การสูญเสียฟันเพิ่มขึ้นในอนาคต
  3. ฟันคู่สบจะเคลื่อนเข้ามายังช่องว่าง ทำให้ฟันยืดยาว คอฟัน อาจจะโผลพ้นเหงือก ทำให้เกิดอาการเสี่ยวฟัน ฟันโยก กัดเหงือก นำไปสู่การสูญเสียฟันได้ในอนาคต
  4. ฟันที่เหลือจำนวนน้อยจะต้องรับแรงในการบดเคี้ยวมากขึ้น ส่งผลให้เกิดปัญหาฟันแตก ฟันหักได้ในอนาคต

 

ข้อดี – ข้อจำกัดในการทำรากฟันเทียม

ข้อดี

  • ให้ประสิทธิภาพที่ดีทั้งด้านการบดเคี้ยว และความสวยงาม
  • เป็นการใส่ฟันทดแทนแบบติดแน่นทำให้ไม่มีปัญหาฟันหลวม หลุด แบบฟันปลอมถอดได้
  • ไม่ต้องเสียเนื้อฟันซี่ข้างเคียงแบบการทำสะพานฟัน
  • ไม่มีปัญหาด้านการออกเสียง เมื่อเทียบกับฟันปลอมชนิดอื่น ๆ
  • เสริมสร้างบุคลิก เพิ่มความมั่นใจมากขึ้น

ข้อจำกัด

  • มีราคาสูงเมื่อเทียบกับฟันปลอมอื่น ๆ
  • อาจไม่สามารถทำได้ในผู้ที่มีโรคประจำตัวบางโรค (โปรดปรึกษาทันตแพทย์อีกครั้ง)
  • ในคนที่มีการสูบบุหรี่ หรือดื่มสุราจัด อาจมีความเสี่ยงในการทำรากฟันเทียม

 

ส่วนประกอบของรากฟันเทียม

รากฟันเทียมประกอบด้วย 3 ส่วน

  1. Implant body or Fixture คือ ส่วนของรากฟันเทียมไทเทเนียม ที่ฝังลงไปในกระดูกขากรรไกรคนไข้ เพื่อทำหน้าที่ทดแทนรากฟันธรรมชาติ
  2. Abutment คือ ส่วนที่ทำหน้าที่ยึดระหว่างรากฟันเทียมและครอบฟัน โดยทันตแพทย์จะออกแบบให้เหมาะสมกับตำแหน่ง ทิศทางของฟันคนไข้
  3. Prosthetic Component คือ ส่วนของครอบฟัน (Crown) หรือ สะพานฟัน (Bridges) เป็นส่วนที่ทำหน้าที่ทดแทนตัวฟัน 1 ซี่ หรือ มากกว่า เป็นส่วนที่มองเห็นได้ภายในช่องปากคนไข้ มักทำจากเซรามิกเพื่อให้เกิดความสวยงาม และมีประสิทธิภาพในการบดเคี้ยว

 

เทคนิคการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม

  1. การฝังรากฟันเทียมภายใน 1 วัน (One Day Implant) คือ การฝังรากฟันเทียม และทำครอบฟันชั่วคราวใส่ทันทีในวันเดียวกัน หรือฝังรากฟันเทียมทันทีหลังการถอนฟันพร้อมครอบฟัน มักทำในตำแหน่งที่ต้องการความสวยงาม สามารถยิ้มได้อย่างมั่นใจทันทีภายในวันเดียว แต่จะมีข้อจำกัดและค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าการทำรากฟันเทียมแบบอื่น ๆ
  2. การฝังรากฟันเทียมแบบทันที (Intermediate Implant) คือ การฝังรากฟันเทียมทันทีหลังจากการถอนฟัน (ถอนฟันแล้วฝังรากฟันเทียมแทนที่ในทันที) สามารถทำในบางเคสที่ไม่มีอาการอักเสบในบริเวณที่จะทำรากฟันเทียม ข้อดีคือคนไข้เจ็บตัวเพียงครั้งเดียว ลดระยะเวลาการรอคอยหลังการถอนฟัน
  3. การทำรากฟันเทียมแบบทั่วไป (Conventional Implant) คือ เทคนิคที่นิยมใช้โดยทั่วไปทำในคนไข้ที่ถอนฟันมาแล้ว (หลังถอนฟันแนะนำให้แผลหายประมาณ 3-6 เดือน) หรือในคนไข้ที่สูญเสียฟันมาเป็นเวลานาน

 

ความจำเป็นอื่น ๆ ที่ต้องพิจารณาร่วมกับการทำรากฟันเทียม

เมื่อเริ่มต้นวางแผนทำรากฟันเทียมแล้วนั้น ทันตแพทย์จะมีปัจจัยต่าง ๆ ที่ต้องนำมาพิจารณาร่วมด้วย เพื่อความสำเร็จในการทำรากฟันเทียม อาทิเช่น

  1. ความหนาของกระดูก คือ ในบางเคสที่โครงสร้างขากรรไกรบาง หรือ ถอนฟันมาเป็นระยะเวลานานจะเกิดการละลายตัวของกระดูกในบริเวณดังกล่าว อาจต้องพิจารณาปลูกกระดูกเพื่อรองรับรากฟันเทียม
  2. ภาวะโพรงอากาศ หรือ โพรงไซนัสต่ำ คือ ในกรณีคนไข้มีภาวะโพรงไซนัสย้อยลงต่ำ หรืออยู่ไกล้ขากรรไกรมาเกินไป ทำให้ความหนาของกระดูกเพื่อรองรับรากฟันเทียมในฟันบนไม่เพียงพอ อาจต้องทำร่วมกับการผ่าตัดยกไซนัส ปลูกกระดูกเทียมเข้าระหว่างกระดูกขากรรไกรและโพรงอากาศ
  3. ภาวะโรคเหงือก คือ ในคนไข้ที่มีภาวะโรคเหงือก หรือ โรครำมะนาด ซึ่งจะรบกวนการยึดติดของรากฟันเทียม ทำให้แผลหายช้า มีโอกาสติดเชื้อ และเพิ่มอัตราการละลายของกระดูก อาจต้องพิจารณาทำการรักษาโรคเหงือกร่วมด้วย
  4. การติดเชื้อในฟันซี่ข้างเคียง คือ ในคนไข้ที่มีการติดเชื้อในโพรงประสาทฟัน หรือปลายรากฟัน ซึ่งจะรบกวนการยึดติดของรากฟันเทียม อาจจำเป็นต้องรักษารากฟันในฟันซี่ที่มีปัญหา

 

การวางแผนรากฟันเทียม ระบบดิจิตอล

ในปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีการวางแผนรากฟันเทียมในระบบดิจิตอล 3 มิติ เข้ามาช่วยในการกำหนดตำแหน่งรากฟันเทียม ให้อยู่ในตำแหน่ง ทิศทาง องศาที่ดีที่สุดสำหรับคนไข้ เพื่อให้ผลสำเร็จของการรักษาสูงสุด อายุการใช้งานรากฟันเทียมยาวนานยิ่งขึ้นจากการรับแรงที่เหมาะสม ลดระยะเวลา บาดแผล และความเจ็บของคนไข้ เนื่องจากในบางเคสอาจเปิดแผลเป็นรูขนาดเล็กเพื่อฝังรากฟันเทียม ซึ่งการวางแผนในระบบดิจิตอลมาช่วยในเคสต่าง ๆ เช่น

  • เคสที่ตำแหน่งรากฟันเทียมไกล้เส้นประสาท
  • เคสที่ตำแหน่งรากฟันเทียมติดกับโพรงไซนัส
  • เคสที่ต้องมีการยกไซนัส เผื่อผ่าตัดฝังรากฟันเทียม
  • เคสที่กระดูกบาง ป้องกันความเสียงรากเทียมหลุดออกนอกกระดูก ลดการปลูกกระดูก
  • เคสที่ช่องว่างมีขนาดเล็ก ตำแหน่งรากเทียมไกล้รากฟันซี่ข้างเคียง
  • เคสรากเทียมจำนวนหลายซี่ หรือ ทั้งปาก

โดยหลังจากมีการออกแบบโปรแกรมเฉพาะแล้ว จะทำการสั่งผลิตชิ้นงาน Digital Srugical Guide ขึ้นมาโดยเครื่องพิมพ์ 3 มิติ ซึ่งเป็นการผลิตเฉพาะบุคคล ในการช่วยกำหนดตำแหน่งรากฟันเทียมในการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม ซึ่งทางคลินิกได้ทำเทคโนโลยีนี้เข้ามาให้บริการคนไข้ เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการให้การรักษา

 

ขั้นตอนการทำรากฟันเทียม

ขั้นตอนพื้นฐานในการทำรากฟันเทียม อาจมีความแตกต่างกันในแต่ละบุคคล ขึ้นอยู่กับแผนการรักษาของทันตแพทย์อีกครั้ง

  1. ปรึกษาทันตแพทย์ และ CT-Scan : (ระยะเวลา 30-60 นาที) โดยตรวจภายในช่องปาก ร่วมกับการเอกซเรย์ 3 มิติ (CT-Scan) เพื่อประเมินความเป็นไปได้ และความพร้อมในการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม โดยพิจารณาดูความหนาของเหงือก ความสูง-ความหนาของกระดูกขากรรไกร สภาพของฟันข้างเคียง โดยคนไข้จะทราบถึงแนวทางการรักษาที่เฉพาะเจาะจงกับตนเอง ในบางเคสอาจทำร่วมกับการแสกนฟัน 3 มิติ เผื่อการวางแผนแบบดิจิตอล
  2. ผ่าตัดฝังรากฟันเทียม : (ระยะเวลา 45-120 นาที) การผ่าตัดฝังรากฟันเทียมจะทำภายใต้ยาชาเฉพาะจุด คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บขณะทำการผ่าตัด ในขั้นตอนนี้เป็นการฝังตัวรากฟันเทียมไทเทเนียม (Fixture) เข้าไปในกระดูกขากรรไกร หากจำเป็นต้องมีการปลูกกระดูก หรือหัตถการอื่น ๆ ร่วมด้วยก็จะทำพร้อมกันในขั้นตอนนี้
  3. นัดตัดไหม และเช็คแผลผ่าตัด : (ระยะเวลา 15-30 นาที)หลังจากการผ่าตัดประมาณ 14 วัน จะทำการนัดตัดไหม และตรวจเช็คความเรียบร้อยของแผล ในบางเคสที่เป็นตำแหน่งเพื่อความสวยงามทันตแพทย์อาจพิจารณาใส่ฟันปลอมชั่วคราวในขั้นตอนนี้
  4. รอรากฟันเทียมยึดติดแน่น : (ระยะเวลา 3-6 เดือน) หลังจากทำการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมแล้วนั้น จะมีช่วงเวลารอให้รากฟันเทียมไทเทเนียมยึดติดแน่นกับกระดูกขากรรไกร พร้อมที่จะรองรับแรงบดเคี้ยวจากการทำฟันปลอมทดแทนฟันธรรมชาติ โดยในช่วงเวลานี้คนไข้จะยังไม่มีการใส่ฟันในบริเวณที่ทำรากฟันเทียม เนื่องจากตัวรากฟันเทียมยังแข็งแรงไม่มากพอ
  5. ทำครอบ และใส่ฟัน : (ระยะเวลา 30-60 นาที 2 ครั้ง) เมื่อคุณหมอประเมินแล้วว่ารากฟันเทียมยึดติดแน่นพร้อมรองรับการทำครอบฟันตัวจริง ก็จะทำการนัดคนไข้เข้ามาเพื่อแสกนฟัน 3 มิติ และเตรียมการผลิตครอบฟัน (Abutment และ Crown) ที่ออกแบบมาเฉพาะกับคนไข้ และนัดหมายเพื่อใส่ฟันต่อไป

หลังเสร็จสิ้นการทำรากฟันเทียมแล้วนั้น แนะนำตรวจเช็คฟันทุก 6 เดือน เพื่อสุขภาพฟันที่ดี และบำรุงรักษารากฟันเทียมให้มีอายุการใช้งานยาวนาน

 

 

การดูแลรักษารากฟันเทียม

  1. เพื่อสุขภาพฟันที่ดีควรพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจเช็ครากฟันเทียม ขูดหินปูน อุดฟัน ตามความจำเป็น เพื่อดูแลสุขภาพฟัน ช่องปาก และรากฟันเทียมให้แข็งแรงอยู่เสมอ
  2. ทำความสะอาดอย่างถูกวิธี เช่น เทคนิคการแปรงฟัน ร่วมกับการใช้ไหมขัดฟัน เพื่อขจัดเศษอาหาร คราบแบคทีเรียที่ติดบริเวณรากฟันเทียม และเหงือก
  3. ระวังในการเคี้ยวของแข็ง แม้รากฟันเทียมจะมีความแข็งแรงไกล้เคียงฟันแท้ แต่ขณะเคี้ยวจะไม่มีรู้สึกเหมือนฟันแท้ อาจะเกิดความเสียหายได้ คนไข้จึงต้องระวังในการบดเคี้ยงของแข็ง

FAQ รากฟันเทียม

ทำไมต้องทำรากฟันเทียม ?

เนื่องจากเป็นวิธีการใส่ฟันที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ในกรณีคนไข้มีการสูญเสียฟันไป เพื่อสุขภาพฟันและช่องปากที่ดี เพิ่มประสิทธิภาพในการบดเคี้ยวอาหาร และเสริมสร้างความมั่นใจ

การเลือกคลินิกเพื่อทำรากฟันเทียม ?

เลือกคลินิกที่มีความชำนาญ โดยทางคลินิกทันตกรรม เดนทัลโซลูชั่น (Dental Solution Clinic) มีทันตแพทย์เฉพาะทางและบุคลากรผู้มีความชำนาญในการรักษา เลือกคลินิกที่มีระบบสเตอร์ไรด์สะอาด ได้มาตรฐาน มีการถ่ายเทของอากาศที่ดี เนื่องจากเป็นขั้นตอนของการผ่าตัด

มีเครื่องมือที่ทันสมัย เนื่องจากช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จ และความแม่นยำในการทำรากฟันเทียมให้สูงขึ้น เช่น เครื่องเอกซ์เรย์ 3 มิติ (CT-Scan) เครื่องแสกน 3 มิติ เครื่องฝังรากฟันเทียม ฯลฯ ซึ่งทางคลินิกทันตกรรม เดนทัลโซลูชั่น มีเครื่องมือให้บริการครบถ้วนจบภายในคลินิกเอง จึงสะดวกกับตัวคนไข้มากกว่า

เลือกรากฟันเทียมอย่างไร ?

เลือกรากฟันเทียมจากแบรนด์ที่มีคุณภาพสูง เป็นที่ยอมรับ สามารถดูแลรักษาง่าย และดำเนินการโดยทันตแพทย์เฉพาะทางผู้มีความเชี่ยวชาญเพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

Digital Surgical Guide คืออะไร ?

Digital Surgical Guide คือ อุปกรณ์ช่วยนำฝังรากฟันเทียม ลักษณะเป็นรูปรางเหมือนฟันคนไข้ โดยมีการกำหนดรูสำหรับเจาะ และฝังตัวรากฟันเทียมไว้ล่วงหน้า เพื่อช่วยเพิ่มความแม่นยำในการรักษา ได้ตำแหน่งรากฟันเทียมที่ดีที่สุด

ทำไมรากฟันเทียมมีราคาแพง และแบ่งชำระได้หรือไม่ ?

เนื่องจากรากฟันเทียมเป็นเทคโนโลยีเฉพาะทั้งทางด้านวัสดุ และรูปแบบที่มีประสิทธิภาพ ทำให้มีต้นทุนสูงกว่าฟันปลอมรูปแบบอื่น แต่ในระยะยาวทั้งด้านประสิทธิภาพ อายุการใช้งาน เทียบกับราคาที่ลดลงมาในปัจจุบันถือว่ามีความคุ้มค่ามาก

ส่วนการชำระนั้น การทำรากฟันเทียมจะมีแผนการแบ่งชำระที่หลากหลาย ยืดหยุน เพื่อตอบสนองแก่คนไข้แต่ละบุคคล โดยสามารถปรึกษาแผนการชำระกับทางคลินิกได้เลยค่ะ ทางเจ้าหน้าที่และคุณหมอจะช่วยวางแผนไม่ให้เป็นภาระแก่คนไข้จนเกินไป

อายุเท่าไรจึงทำรากฟันเทียมได้ ?

รากฟันเทียมเหมาะกับบุคคลอายุ 18 ปีขึ้นไป เนื่องจากไม่มีการเจริญเติบโตของขากรรไกรแล้ว

ในผู้สูงอายุไม่ต้องกังวลว่าจะไม่สามารถทำรากเทียมได้ เนื่องจากรากเทียมไม่มีข้อจำกัดด้านอายุ แต่ในผู้สูงอายุบางท่านอาจพบปัญหากระดูกละลายตัว กระดูกบาง หรือการยึดติดที่ช้ากว่า ซึ่งจำเป็นที่จะต้องปรึกษาทันตแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจในการทำรากฟันเทียม

การเตรียมตัวก่อนทำรากฟันเทียม ?

พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานยาประจำตัว อาจรับประทานอาหารให้เรียบร้อยก่อนการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม เนื่องจากอาจมีอาการชา หรือ เจ็บแผลเล็กน้อย หลังจากนั้นทำใจสบาย ๆ ให้เป็นหน้าที่ของทันตแพทย์เฉพาะทางทำการฝังรากฟันเทียม

ทำรากฟันเทียมเจ็บไหม ?

ขณะทำการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมจะทำภายใต้การใช้ยาชาเฉพาะที่ คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บ และหลังทำจะอาจมีอาการปวด บวม ได้บ้างช่วง 2-3 วันแรก ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยการใช้ยาแก้ปวด

จากที่ทางคลินิกได้สอบถามคนไข้หลังทำการฝังรากฟันเทียม ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เจ็บ และไม่น่ากลัวอย่างที่คิด การถอนฟันหรือผ่าฟันคุดยังเจ็บกว่า คนไข้จึงสบายใจได้

รากฟันเทียมมีอายุการใช้งานกี่ปี ?

ฟันเทียมทำจากวัสดุไทเทเนียม ซึ่งมีความคงทนสูงมาก โดยอายุการใช้งานขึ้นอยู่กับการดูแลรักษาความสะอาด และสุขภาพช่องปากของคนไข้ ซึ่งรากฟันเทียมจะไม่เกิดการผุ แต่อาจเกิดการแตก หัก หรือปัญหาโรคเหงือกได้หากคนไข้ดูแลไม่ดี ซึ่งรากฟันเทียมก็มีการดูแลไม่แตกต่างจากฟันธรรมชาติ โดยทำความสะอาด พบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน หากดูได้ดีรากฟันเทียมก็จะมีอายุยาวนานเสมือนฟันแท้ซี่หนึ่ง