รักษาคลองรากฟัน (Root Canal Treatment)

การรักษารากฟัน (Root Canal Treatment) คือวิธีหนึ่งในการรักษาการปวดจากการติดเชื้อ และอักเสบภายในฟันโดยไม่จำเป็นต้องถอนฟัน เพื่อเก็บรักษาฟันไว้ให้ยาวนานที่สุด โดยการกำจัดเนื้อเยื้อภายในโพรงประสาทฟันที่ติดเชื้อออกไป และทำความสะอาดภายในคลองรากฟันด้วยเครื่องมือขยายคลองรากฟัน รวมกับการล้างทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ และใส่ยาฆ่าเชื้อภายในฟัน ให้ปราศจากเชื้อ และทำการบูรณะฟันต่อไป

 

ทำไมต้องรักษารากฟัน

เมื่อเกิดฟันผุลึกลงไปถึงโพรงประสาทฟัน หรือได้รับการกระทบกระเทือนรุนแรง จะมีอาการปวด โดยเฉพาะเมื่อรับประทานของร้อน ของเย็น หรือเมื่อมีเศษอาหารเข้าไปอุดบริเวณที่ผุ ซึ่งอาการในช่วงแรกจะไม่รุนแรงนัก เมื่อรับประทานยาแก้ปวดก็จะทุเลา และหายไปได้เอง แต่ถ้าปล่อยไว้จนเนื้อเยื้อภายในโพรงประสาทฟันติดเชื้อ อักเสบ เน่า ตาย ในที่สุดก็จะลุกลามไปถึงปลายรากฟัน รวมถึงบริเวณรอบปลายราก เกิดเป็นวงหนองในบริเวณดังกล่าว อาจมีหนอง หรือตุ่มหนองในบริเวณฟัน ในระยะนี้จะเกิดอาการปวดมากเมื่อเคี้ยวอาหาร หรือกัดฟัน หากไม่ได้ทำการรักษาอาจเกิดการติดเชื้อแพร่กระจายไปได้

การรักษาเพื่อเก็บฟันธรรมชาติไว้โดยไม่ต้องถอนฟันซี่นั้น ๆ ทิ้ง คือการรักษาคลองรากฟัน

 

สาเหตุที่ทำให้ต้องได้รับการรักษารากฟัน

  1. ฟันผุขนาดใหญ่ จนทำให้เชื้อโรคทะลุถึงโพรงประสาทฟัน
  2. มีการกัด เคี้ยวแรง เคี้ยวโดนของแข็ง การนอนกัดฟัน ซึ่งอาจกระทบกระเทือนโพรงประวาทฟัน หรือฟันร้าวเป็นเหตุให้เชื้อโรคซึมเข้าโพรงประสาทฟัน
  3. เกิดอุบัติเหตุ หรือ ฟันได้รับการกระทบรุนแรง ฟันแตก หัก ทะลุโพรงประสาทฟัน
  4. ปัญหาโรคเหงือก

 

ข้อดีของการรักษารากฟัน เมื่อเทียบกันการถอนฟันทิ้ง

  1. เพื่อเก็บรักษาฟัน และรากฟันธรรมชาติไว้ ซึ่งเป็นสิ่งมีค่า และมีประสิทธิภาพดีที่สุด แข็งแรงที่สุด ไม่มีวิธีใส่ฟันใดทดแทนฟันธรรมชาติได้ 100%
  2. การเคี้ยวอาหารให้ความรู้สึกที่ดี เคี้ยวสนุก เคี้ยวมัน เนื่องจากฟันธรรมชาติจะมีเส้นประสาทมาเลี้ยงตัวฟันทำให้สามารถรับความรู้สึกได้
  3. ดูแลทำความสะอาดง่ายกว่า เนื่องจากหลังการรักษารากฟันแล้วนั้น ฟันจะมีสภาพเหมือนฟันแท้ตามธรรมชาติ
  4. ไม่ก่อให้เกิดปัญหาต่อฟันซี่ข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น เช่น ฟันบิด ฟันล้ม โรคเหงือก ฯลฯ

ดังนั้น ถ้าหากประเมินแล้วสามารถเก็บรักษาฟันแท้ไว้ได้ ทันตแพทย์จึงแนะนำให้ทำการรักษารากฟัน และเก็บไว้ใช้งาน

 

ขั้นตอนการรักษารากฟัน

  1. ทันตแพทย์จะทำการใช้แผนยางกันน้ำลาย (Rubber Dam) เพื่อแยกฟันที่มีปัญหาออกจากฟันซี่อื่น ๆ และใช้ยาชาเพื่อให้คนไข้ไม่รู้สึกเจ็บขณะรักษา โดยกรอฟันเปิดเข้าไปยังโพรงประสาทฟัน โดยใช้เครื่องมือเฉพาะ
  2. กรอกำจัดรอยฟันที่เสียหายจากการผุ กำจัดเนื้อเยื่อที่อักเสบ รวมถึงทำความสะอาดเชื้อโรคภายในโพรงประสาทฟันและคลองรากฟันออกให้หมดใส่ยาฆ่าเชื้อลงไปในคลองรากฟัน และอุดปิดด้วยวัสดุอุดชั่วคราวไว้เพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำ ในคนไข้ที่มีการติดเชื้อรุนแรงอาจต้องมีการเปลี่ยนยาในคลองรากฟันมากกว่า 1 ครั้ง
  3. เมื่อไม่มีการอักเสบ และทำความสะอาดภายในคลองรากฟันแล้ว จะทำการอุดปิดคลองรากฟันด้วยวัสดุเฉพาะ (Gutta Percha) เพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำในภายหลัง
  4. บูรณะความแข็งแรงด้วยวัสดุอุดแกนฟัน เดือยฟัน เพื่อเสริมความแข็งแรงของเนื้อฟันที่หายไปในขั้นตอนการรักษา และครอบฟันเพื่อให้ฟันกลับมาแข็งแรงเสมือนฟันปกติ

 

 

การป้องกันไม่ให้เกิดการติดเชื้อภายในฟัน จนต้องรักษารากฟัน

  1. พบทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่อตรวจเช็คฟัน อุดฟัน ขูดหินปูนอยู่เสมอ
  2. ทำความสะอาดฟันให้ดีเพื่อลดคราบหินปูน และเชื้อโรคสะสมจนเป็นเหตุของโรคเหงือก
  3. เลี่ยงการเคี้ยวของแข็ง ซึ่งมีความเสี่ยงทำให้ฟันแตกร้าวได้
  4. หากมีปัญหานอนกัดฟัน ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อป้องกันปัญหาฟันแตกร้าว โดยอาจมีการทำเฝือกสบฟันใส่เพื่อช่วยลดแรงกระแทก

FAQ รักษารากฟัน

การเลือกคลินิกเพื่อทำการรักษารากฟัน ?

มีทันตแพทย์เฉพาะทางด้านรักษารากฟันออกตรวจเป็นประจำ อย่างน้อยทุกสัปดาห์ เพื่อลดระยะเวลาในการรอพบทันตแพทย์ ซึ่งทางคลินิกทันตกรรม เดนทัลโซลูชั่น มีทันตแพทย์เฉพาะทางออกตรวจทุกสัปดาห์ รวมถึงมีเครื่องมือด้านการรักษารากฟันครบถ้วน ทันสมัย

ด้วยเครื่องมือที่ทันสมัย อาทิเช่น เครื่องขยายคลองรากฟัน เครื่องวัดความยาวรากฟัน เครื่องเอกซ์เรย์ดิจิตอล ทำให้เกิดผลดีต่อคนไข้ ทั้งด้านความเร็วในการรักษา งานรักษาที่มีคุณภาพดี มีความแม่นยำสูง รองรับเคสที่มีความซับซ้อนได้ดี

เมื่อรักษารากฟันแล้ว กี่วันจึงหายปวด ?

โดยปกติหลังจากการรักษาอาการปวดจะดีขึ้นอย่างชัดเจนในทันที เนื่องจากทันตแพทย์ได้จำกัดเส้นประสาทภายในฟัน ที่มีการอักเสบ ซึ่งเป็นเหตุให้เกิดอาการปวด โดยในระหว่างนี้อาจยังมีอาการปวดได้ช่วง 2-3 วันแรก และจะค่อย ๆ ดีขึ้นตามลำดับ สามารถใช้ยาแก้ปวดเพื่อช่วยบรรเทาอาการ และอาการปวดจะหายสนิดหลังจากการรักษาเสร็จสิ้น

รักษารากฟันเจ็บไหม ?

ในการรักษารากฟันจะทำร่วมกับการใช้ยาชาเฉพาะจุด แต่อาจมีการปวดตึง ๆ หรือเจ็บได้บ้าง เนื่องจากเป็นการกำจัดส่วนของเส้นประสาทที่อักเสบโดยตรง ซึ่งคนไข้สามารถยกมือแจ้งทันตแพทย์ขณะทำการรักษาได้

การรักษารากฟันใช้เวลานานเท่าไร กี่วัน ?

ในการรักษารากฟันใช้เวลาครั้งประมาณ 1 ชม. ต่อครั้ง ในแต่ละครั้งหากกัน 1-2 สัปดาห์ ในคนไข้ปกติจะพบต้องทันตแพทย์เพื่อรักษารากฟัน 1-2 ครั้ง จึงใช้เวลาในขั้นตอนการรักษารากฟันประมาณ 1-2 สัปดาห์ และของของการบูรณะทำครอบและติดตามอาการอีก 1-2 สัปดาห์

หรือในบางเคสที่มีการติดเชื้อไม่รุนแรง จะสามารถรักษาเพียงครั้งเดียวเสร็จได้

ไม่มีอาการปวดฟัน ทำไมจึงต้องรักษารากฟัน ?

เนื่องจากอาการปวดเป็นอาการที่เกิดเมื่อมีการติดเชื้อลุกลามรุนแรงแล้ว หรือในบางครั้งเกิดจากภาวะฟันผุ แตก ร้าว มาเป็นเวลานาน หรืออาจจะเคยปวดแล้วหายแล้ว แต่ภายในฟันยังมีเชื้อโรคอยู่ ซึ่งมีโอกาสจะกลับมาปวดอีกครั้งเมื่อติดเชื้อโรคลุกลามมากขึ้น ซึ่งทันตแพทย์สามารถตรวจพบได้ก่อนจะเกิดอาการปวด

การตรวจฟันเพื่อยืนยันการรักษารากฟัน

ทันตแพทย์จะทำการ X-Ray เพื่อดูจุดบ่งชี้ของการอักเสบ เช่น เงาหนองปลายรากฟัน ความลึกของรอยผุ ฯลฯ และตรวจภายในช่องปากคนไข้ ร่วมกับการใช้เครื่องมือเพื่อตรวจสอบการมีชีวิตของฟันเพื่อยืนยันก่อนทำการรักษารากฟัน

มีรอยผุขนาดใหญ่หากยังไม่อยากรักษารากฟัน สามารถอุดได้หรือไม่ ?

ขึ้นอยู่กับการประเมินของทันตแพทย์ หากมีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อภายในโพรงประสาทฟัน ทันตแพทย์มักจะไม่แนะนำให้ทำการอุดปิดโดยไม่รักษา เนื่องจากอาจเป็นการอุดปิดเชื้อโรคไว้ภายในฟัน เสี่ยงต่อการปวดในอนาคต