เลือกคลินิกที่มีความชำนาญ รองรับเคสที่ซับซ้อนได้ โดยทางคลินิกทันตกรรม เดนทัลโซลูชั่น (Dental Solution Clinic) มีทันตแพทย์เฉพาะทางและบุคลากรผู้มีความชำนาญในการรักษา เลือกคลินิกที่มีระบบสเตอร์ไรด์สะอาด ได้มาตรฐาน มีการถ่ายเทของอากาศที่ดี เนื่องจากเป็นขั้นตอนของการผ่าตัด

มีเครื่องมือที่ทันสมัย เนื่องจากช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จ และความแม่นยำในการทำรากฟันเทียมให้สูงขึ้น เช่น เครื่องเอกซ์เรย์ 3 มิติ (CT-Scan) เครื่องแสกน 3 มิติ เครื่องฝังรากฟันเทียม ฯลฯ ซึ่งทางคลินิกทันตกรรม เดนทัลโซลูชั่น มีเครื่องมือให้บริการครบถ้วนจบภายในคลินิกเอง จึงสะดวกกับตัวคนไข้มากกว่า

เลือกรากฟันเทียมจากแบรนด์ที่มีคุณภาพสูง เป็นที่ยอมรับ จากแบรนด์ชั้นนำของโลก

เพราะรากฟันเทียม อยู่กับเรามากกว่า 10 ปี ในระยะยาวต้องมีการดูแล บำรุงรักษา คล้ายกับรถยนต์ ที่ควรเลือกยี่ห่อที่เป็นที่นิยมของตลาด บริษัทมีความมั้นคงในระยะยาว สามารถดูแลรักษาง่าย และดำเนินการโดยทันตแพทย์เฉพาะทางผู้มีความเชี่ยวชาญเพื่อลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต

ซึ่งรากฟันเทียมที่ทางคลินิกทันตกรรม เดนทัลโซลูชั่น นำมาให้การรักษาได้แค่แบรนด์ Struamann, Neodent, Hiossen, Osstem ซึ่งล้วนเป็นแบรนด์ระดับโลก ทั้งอันดับ 1 ด้านเทคโนโลยี และอันดับ 1 ด้านยอดขายทั่วโลก คนไข้จึงมั่นใจได้ในรากฟันเทียม

Digital Surgical Guide คือ อุปกรณ์ช่วยนำฝังรากฟันเทียม ลักษณะเป็นรูปรางเฉพาะที่จะนำมาครอบติดกับฟันคนไข้ โดยมีการกำหนดรูสำหรับเจาะ และฝังตัวรากฟันเทียมไว้ล่วงหน้า เพื่อให้ได้ตำแหน่งรากฟันเทียมที่ดีที่สุด

เนื่องจากรากฟันเทียมเป็นเทคโนโลยีเฉพาะทั้งทางด้านวัสดุ และรูปแบบที่มีประสิทธิภาพ ทำให้มีต้นทุนสูงกว่าฟันปลอมรูปแบบอื่น แต่ในระยะยาวทั้งด้านประสิทธิภาพ อายุการใช้งาน เทียบกับราคาที่ลดลงมาในปัจจุบันถือว่ามีความคุ้มค่ามาก

ส่วนการชำระนั้น การทำรากฟันเทียมจะมีแผนการแบ่งชำระที่หลากหลาย ยืดหยุน เพื่อตอบสนองแก่คนไข้แต่ละบุคคล โดยสามารถปรึกษาแผนการชำระกับทางคลินิกได้เลยค่ะ ทางเจ้าหน้าที่และคุณหมอจะช่วยวางแผนไม่ให้เป็นภาระแก่คนไข้จนเกินไป

รากฟันเทียมเหมาะกับบุคคลอายุ 18 ปีขึ้นไป เนื่องจากไม่มีการเจริญเติบโตของขากรรไกรแล้ว

ในผู้สูงอายุไม่ต้องกังวลว่าจะไม่สามารถทำรากเทียมได้ เนื่องจากรากเทียมไม่มีข้อจำกัดด้านอายุ แต่ในผู้สูงอายุบางท่านอาจพบปัญหากระดูกละลายตัว กระดูกบาง หรือการยึดติดที่ช้ากว่า ซึ่งจำเป็นที่จะต้องปรึกษาทันตแพทย์เพื่อตรวจอย่างละเอียด เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจในการทำรากฟันเทียม

พักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานยาประจำตัว อาจรับประทานอาหารให้เรียบร้อยก่อนการผ่าตัดฝังรากฟันเทียม เนื่องจากจะมีการฉีดยาชา ทำให้ชาอยู่ประมาณ 2-3 ชม. หลังจากนั้นทำใจสบาย ๆ ให้เป็นหน้าที่ของทันตแพทย์เฉพาะทางทำการฝังรากฟันเทียม

ขณะทำการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมจะทำภายใต้การใช้ยาชาเฉพาะที่ คนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บขณะผ้าตัดฝังรากฟันเทียม อาจรู้สึกได้ถึงเสียง และแรงกดบ้างขณะทำ โดยหลังจากการผ่าตัดฝังรากฟันเทียมอาจมีอาการปวด บวม ได้บ้างช่วง 2-3 วันแรก ซึ่งสามารถบรรเทาได้ด้วยการใช้ยาแก้ปวด

จากที่ทางคลินิกได้สอบถามคนไข้หลังทำการฝังรากฟันเทียม ทุกคนบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เจ็บ และไม่น่ากลัวอย่างที่คิด การถอนฟันหรือผ่าฟันคุดยังเจ็บกว่า คนไข้จึงสบายใจได้

ตามสถิติรากฟันเทียมโอกาส Success Rate  97 % และ โอกาส Fail 3 %

หลังจากฝังรากฟันเทียมแล้ว ช่วง 3-6 เดือน เป็นช่วงรอให้รากฟันเทียมยึดติดกับกระดูก หากแล้วรากฟันเทียมไม่ติด เคลมปักรากใหม่ให้ฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่ายค่ารากฟันเทียม

ในคนไข้ที่กระดูกมีความสูง และความหนาเพียงพอต่อการฝังรากฟันเทียม ไม่จำเป็นต้องมีการปลูกกระดูกเพิ่มเติม

แต่ในเคสที่กระดูกไม่เพียงพอการปลูกกระดูกมีความจำเป็นในการฝังรากฟันเทียม เพราะรากฟันเทียมจะยึดติดได้อย่างแข็งแรงต้องมีความหนาของกระดูกที่เพียงพอต่อการรองรับรากฟันเทียม อย่างน้อยโอบรอบด้านละ 1 มม. ซึ่งคนไข้จะทราบก่อนจากการ X-Ray และ CT-Scan

โดยกระดูกที่ใช้เป็นกระดูกเทียมที่ผ่านกรรมวิธีทางการแพทย์อาจผลิตจากกระดูกจริง หรือสังเคราะห์ขึ้นกับชนิดของกระดูก โดยกระดูกเทียมทั้งหมดผลิต และนำเข้าอย่างถูกกฎหมาย

หากเป็นกรณีฟันหน้าสามารถปรึกษาคุณหมอเพื่อวางแผนใส่ฟันชั่วคราวพร้อมกับการทำรากฟันเทียมได้ โดยสามารถทำฟันชั่วคราวได้หลายวิธีขึ้นกับความเหมาสมในแต่ละเคส

หากคนไข้มีฟันปลอมเดิมอยู่แล้ว แนะนำปรึกษาคุณหมออีกครั้ง ในบางเคสอาจจะต้องมีการกรอแต่งฟันปลอมไม่ให้กดทับบริเวณตัวรากฟันเทียมหรือแผล หรืออาจใส่ไม่ได้ขึ้นกับรูปแบบของฟันปลอมเดิมของคนไข้